• What A Drink.BKK สโลว์บาร์คาเฟ่ย่านโชคชัย 4

    คาเฟ่ Slow Bar น้องใหม่ย่านโชคชัย 4 จิบกาแฟดริปในบรรยากาศวินเทจที่ "What A Drink.BKK" คาเฟ่เล็กๆ ที่เหล่า Cafe Hopper และชาว Coffee Drip มาเยือนกันเพียบWhat A Drink.BKK ร้านกาแฟดริปน่ารักๆ ที่กำลังเป็นกระแสในโซเชียล เดิมเปิดเป็น Slow Bar เล็กๆ มีแค่โต๊ะหนึ่งตัวและอุปกรณ์ดริปกาแฟโดยเปิดเป็นช่วงๆ ไม่ได้เปิดประจำ แต่เพราะความหลงใหลในกาแฟและการดริปของ 'คุณวี' และ 'คุณอ้อนแอ้น' เจ้าของร้าน จึงมาเปิดเป็น Slow Bar ย่านโชคชัย 4คอนเซ็ปต์ของที่ร้านตั้งใจให้เป็น Slow Bar ที่ทุกคนเข้ามาพักผ่อน จิบกาแฟในบรรยากาศชิลๆ เป็นกันเองและเป็นที่รวมตัวของคนที่ชอบกาแฟดริป โดยทั้งคุณวีและคุณอ้อนแอ้นจะบอกเสมอว่าไม่ใช่บาริสต้า แต่ทุกอย่างเกิดมาจากความชอบล้วนๆ กาแฟดริปก็ตั้งใจให้เป็นการดริปแบบบ้านๆ เข้าถึงง่าย ไม่ได้ซับซ้อนเพราะความหลงใหลในของการดริปกาแฟของเจ้าของร้านที่รู้สึกว่ากาแฟดริปนั้นสามารถทานได้เรื่อยๆ และมีความเป็นเอกลักษณ์ของเมล็ดกาแฟแต่ละเมล็ด ทางร้านจึงมีเมล็ดกาแฟให้เลือกหลากหลายทั้งเมล็ดของไทยและต่างประเทศซึ่งเมล็ดกาแฟจะถูกปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ขึ้นอยู่กับว่าช่วงนั้นมีเมล็ดอะไรที่น่าสนใจทางร้านก็จะเอามาให้ทุกคนได้ลิ้มลองกัน"เมล็ดวีต้า (100 บาท)" เป็นกาแฟโรบัสต้าตัวแรกที่ทางร้านนำเข้ามา รสชาตินุ่ม เปรี้ยวนิดๆ"เมล็ดบราซิล (65 บาท)" รสชาติจะออกโทนนัตตี้ ช็อคโกแลต คาราเมล เหมาะสำหรับดื่มแบบเย็น หรือจะใส่นมก็เข้ากันได้ดี"เมล็ดเอธิโอเปีย (90 บาท)" หอมละมุน มีกลิ่นผลไม้และรสของเบอร์รี ตัวนี้ถ้าดื่มแบบร้อนจะเหมาะกว่า"ขุนช่างเคี่ยน (70 บาท)" ที่ปลูกบนดอยขุนช่างเคี่ยน จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งของทางร้านจะเป็นแบบคั่วอ่อน รสชาติไม่เข้มมาก ออกหวานตอนท้ายนอกจากกาแฟแล้วทางร้านยังมีขนมโฮมเมดไว้ทานคู่กับกาแฟอีกด้วย "Brownie (20 บาท)" และ "Soft Baked Cookie (35 บาท)""What A Drink.BKK"  อยู่ที่โชคชัย 4 ซอย 84 แยก 2-4 วันจันทร์-อังคาร และ พฤหัส-ศุกร์ ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 07.00-15.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. (หยุดวันพุธ) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-4775-5608

  • Kenn's Coffee & Croissant

    วันนี้เปรี้ยวปากพาทุกคนมาอัพเดทร้านใหม่กันที่ย่านอารีย์ที่มีแต่ของอร่อยกับ "ร้าน Kenn's Coffee & Croissant สาขาอารีย์" เป็นสาขาใหม่ล่าสุดของทางร้านโดยสาขาแรกอยู่ที่สาธร ที่สาขาอารีย์จะเน้นความเป็น Grab & Go เน้นความสดใหม่ อบกันแบบหอมกรุ่นวันละเป็นพันชิ้นเลย"ร้าน Kenn's Coffee & Croissant สาขาอารีย์" จะมีครัวซองต์ให้เลือกถึง 7 รสชาติ และ 2 รสชาติพิเศษจะมีขายเฉพาะสาขาอารียเท่านั้น คือ La Vie En Jaune และ Cherie Pretzel โดยความพิเศษของครัวซองต์ Kenn's คือความกรอบนอกนุ่มใน ด้านในไม่แห้ง มีกลิ่นหอมเนย สามารถทานได้เรื่อยๆ ทานง่ายๆ"La Vie En Jaune (125 บาท)" ด้านในเป็นไส้ครีมเสาวรสและมะม่วง รสชาติจะออกเปรี้ยวหวาน ด้านบนโรยหน้าด้วยผิวมะนาว"Cherie Pretzel (85 บาท)" ครัวซองต์รสชาตินี้จะคล้ายกับกิน Pretzel ไม่มีไส้ แต่ด้านบนจะโรยด้วยดอกเกลือ"Choco Marnier (90 บาท)" ทางร้านใช้ส้มมาเชื่อมกับเหล้านำเข้าจากฝรั่งเศส"Almond Au Rum (125 บาท)" ด้านในเป็นไส้ครีมอัลมอนด์ผสมกับเหล้ารัมมาลองชิมครัวซองต์อร่อยๆ กันได้ที่ "ร้าน Kenn's Coffee & Croissant สาขาอารีย์" อยู่ที่ซอยอารีย์ 2 วันจันทร์-ศุกร์ เปิดตั้งแต่เวลา 07.30-15.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เปิดตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น.

  • บ้านย่า คาเฟ่(Banya Cafe) คาเฟ่วินเทจย่านห้วยขวาง

    เอาใจเหล่า Cafe Hopper กับคาเฟ่ลับบนถนนรัชดา "บ้านย่า คาเฟ่(Banya Cafe)" ในบรรยากาศโฮมมีที่มีขนมโฮมเมดอร่อยๆ พร้อมกับเครื่องดื่มสุดครีเอทร้านบ้านย่าคาเฟ่ถูกดัดแปลงมาจากบ้านเก่าของคุณย่าเจ้าของร้าน เดิมทีทำเป็น Hostel ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าพัก ต่อมาจึงได้ไอเดียดัดแปลงชั้น 1 มาทำเป็นคาเฟ่แบบจริงจัง คอนเซ็ปต์ร้านก็จะเป็นแบบโฮมมี่ ตัวร้านและของตกแต่งเป็นสไตล์วินเทจและเสริมด้วยของสตรีทตามความชอบของเจ้าของร้าน ให้บรรยากาศเหมือนนั่งเล่นอยู่ในบ้านเมนูเครื่องดื่มและขนมของร้านเป็นแบบโฮมเมด ขนมเป็นสูตรของคุณแม่เจ้าของร้านซึ่งจะเลือกใช้วัตถุดิบแบบพรีเมียม เพราะอยากให้คนที่ทานได้รู้สึกเหมือนขนมที่ทำทานกันในบ้าน และขนมเกือบทุกตัวจะไม่เน้นหวาน ส่วนเครื่องดื่มแต่ละตัวได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนังที่เจ้าของชื่นชอบ นำมารังสรรค์เป็นเครื่องดื่มที่เป็นเอกลักษณ์ของหนังเรื่องนั้นๆ "Marbel Cheesecake (170 บาท)" เป็นชีสเค้กผสมกับช็อกโกแลตทำลวดลายออกมาให้เหมือนหินอ่อน โรยหน้าด้วยช็อกโกแลต Sarath ซึ่งเป็นแบรนด์ของคนไทยที่มีรางวัลการันตีอีกด้วย"Raspberry Whitechoc Cheesecake (170 บาท)" ชีสเค้กไวท์ช็อกโกแลตที่ไม่มีน้ำตาล ตัดกับรสเปรี้ยวของราสป์เบอร์รี ส่วนด้านล่างจะเป็นเนื้อบัตเตอร์เค้ก"Lemon Meringue Pie (150 บาท)" "Brownie (70 บาท)" สูตรดาร์คช็อกโกแลตเข้มข้น ผสมกับอัลมอนด์ที่ไม่เน้นหวานเมนูเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ "Kathleen Kelly (120 บาท)" เป็น Honey Latte ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่อง You've Got Mail ด้านบนโรยด้วยผงซินนามอน ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นเทศกาลคริสต์มาสที่เป็นธีมของหนังปักหมุดรัชดาคาเฟ่ในบรรยากาศอบอุ่น นั่งทานขนม ดื่มเครื่องดื่มชิลๆ กันได้ที่ "บ้านย่า คาเฟ่(Banya Cafe)" อยู่ที่ซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 5 ร้านเปิดจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. (หยุดวันพฤหัส) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-6574-1612

  • Factory Coffee ดื่มด่ำกับกาแฟฝีมือแชมป์บาริสต้า

    เอาใจ Coffee Lover กับคาเฟ่ในคอนเซ็ปต์โรงงานกาแฟที่ส่งกลิ่นหอมอบอวลตั้งแต่เข้าร้าน "Factory Coffee" กับการรวมตัวของแชมป์บาริสต้าระดับประเทศ สร้างสรรค์เมนูกาแฟที่เป็นเอกลักษณืให้คอกาแฟได้สนุกสนานไปกับรสชาติ'Factory Coffee' ปัจจุบันมีหุ้นส่วนทั้งหมด 9 คน ซึ่งแต่ละคนได้รับรางวัลการันตีกันทุกคนและรักในการทำกาแฟ อยากเติมเต็มความฝันร่วมกันที่ร้านแห่งนี้ ซึ่งภายในร้านถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ คือ Cafe, Roastery และ Training โดยทางร้านอยากเป็นโรงงานผลิตกาแฟดีๆ ให้ทุกคนที่มาดื่ม มีความสุขกับกาแฟที่ทางร้านครีเอทขึ้นมาเริ่มด้วยกาแฟดริปอย่าง "Filter Coffee: Finca Deborah Nirvana (500 บาท)" ใช้เมล็ดพิเศษ Nirvana จากไร่ Finca Deborah จากประเทศปานามา ซึ่งเป็นไร่ที่ผลิตกาแฟระดับโลก"Phayathai (140 บาท)" กาแฟดำผสมเลมอนและโทนิค ตัวเมล็ดกาแฟใช้เมล็ดกาแฟจากจังหวัดเชียงรายที่ปลูกบนความสูง 1400 เมตร เมนูนี้ถูกตั้งชื่อตามย่านที่ร้านอยู่ เพราะอยากให้เป็นเมนูซิกเนเจอร์ และเป็นเมนูถ่ายรูปเช็คอินของนักท่องเที่ยวที่มา"Honolulu (120 บาท)" เป็นการจับคู่ของเอสเปรสโซและโฮจิฉะ เสิร์ฟมาเป็นเลเยอร์ เวลาดื่มให้ดื่มแบบแยกชั้นจะได้รสชาติที่ดีกว่า"Filter Coffee: Thailand Maesuai - Anaerobic Natural (Experiment Lot)""Mocha Set Salt (150 บาท)" ดาร์กช็อกโกแลตผสมกับกาแฟ ท็อปด้วยครีมเย็นแล้วโรยด้วยเกล็ดช็อกโกแลตขูดบางๆ"Matcha Yen (130 บาท)" เป็นมัจฉะพิเศษจากเมือง Yame จังหวัดฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ออนท็อปบนนมเย็นใครที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟมาตามรอยกันได้ที่ "ร้าน Factory Coffee" อยู่ ซ.ข้าง สถานี Airport Rail Link พญาไท ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-0958-8050

  • Bloom Pretzel & Coffee คาเฟ่ Pretzel สไตล์เกาหลี

    ไม่ต้องไปถึงเกาหลีก็มีคาเฟ่ชิคๆ เก๋ๆ เอาใจสาย Cafe Hopper อย่าง "Bloom Pretzel & Coffee" คาเฟ่ Pretzel สไตล์เกาหลีเปิดใหม่ย่านพัฒนาการ ที่โดดเด่นในเรื่องของ Pretzel ซึ่งทางร้านจะมีให้เลือก 2 แบบ คือ Classic Soft Pretzel และ Signature Stuffed Pretzel หรือแบบมีไส้นั่นเอง'ร้าน Bloom Pretzel & Coffee' เกิดจากความชอบและหลงใหลใน Pretzel ของเจ้าของร้าน ซึ่งตัว Pretzel เองเป็นขนมอบที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน ที่คนในสมัยนั้นใส่ทั้งวัฒนธรรมและมุมมองของตัวเองลงไปในขนม ทำให้คนทานได้รับรู้ถึงความตั้งใจและสิ่งที่คนในสมัยนั้นอยากนำเสนอ ทางร้าน Bloom Pretzel & Coffee จึงนำความดั้งเดิมนั้นมาพัฒนาและใส่มุมมองของตัวเองลงไป จนกลายมาเป็น Pretzel แบบฉบับของ Bloom Pretzel & Coffee อย่างทุกวันนี้ตัวร้านจะมีการตกแต่งสไตล์ Cozy ใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้เน้นสีน้ำตาลอ่อนกับขาวให้ความรู้สึกอบอุ่น ได้ฟีลเกาหลีนิดๆ ด้วยการตกแต่งร้านทำให้มีหลากหลายมุมเด็ดให้ถ่ายรูปทั้งมุมหน้าร้าน, มุมโต๊ะริมหน้าต่าง หรือมุมกลางร้าน จะมาโพสต์ท่าเดินผ่านคาเฟ่แบบเผลอๆ หรือยืนโพสต์ท่าเท่ๆ ตรงกลางร้านที่มีแบล็คกราวน์เป็นแก้วกาแฟเรียงรายก็ดูเก๋ๆ ไปอีกแบบ"The Queen Cheese (85 บาท)" เป็น Signature Stuffed Pretzel หรือแบบมีไส้ รูปร่างทรงกลมคล้ายโดนัท ไส้อัดแน่นไปด้วยครีมชีสที่อบไปพร้อมกัน ทำให้มีความหอมนุ่มและได้ความเค็มนิดๆ ของครีมชีส"55% Dark Belgium (80 บาท)" เนื้อแป้งเนียนนุ่ม และอัดแน่นด้วยไส้ดาร์กช็อคโกแลตเมนูพิเศษ รสชาติ Special ที่มีวันละไม่กี่ชิ้นเท่านั้น "BFF หรือ Best Friend Forever (150 บาท)" เป็นเมนูที่ให้คนทานได้เซอร์ไพร์สกับรสชาติหรือ Mystery Flavor นั่นเอง ซึ่งจะมีการเปลี่ยรสชาติไปเรื่อยๆ ทำให้คนทานได้สนุกกับการทายรสชาติต่อด้วยเมนูที่ใครมาก็ต้องสั่งอย่าง "Roasted Almond (75 บาท)" เมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน เป็น Classic Soft Pretzel แป้งนุ่มๆ เพิ่มสัมผัสกรุบกรอบด้วยอัลมอนด์ พร้อมรสชาติหวานมันเค็มมาลอง Pretzel อร่อยๆ กันได้ที่ "Bloom Pretzel & Coffee" อยู่ที่ซอยพัฒนาการ 65 วันอังคาร-ศุกร์ ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 08.30-17.30 น. (หยุดทุกวันจันทร์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-2722-2371

  • 58+60 Cafe คาเฟ่มินิมอลโฮมมี่ ย่านพัฒนาการ

    "58+60 Cafe" คาเฟ่สไตล์มินิมอลโฮมมี่ มีจุดเริ่มต้นจาก 2 เจ้าของร้านที่ชื่นชอบการทำขนมและการไปเที่ยวคาเฟ่เป็นชีวิตจิตใจ ชื่อร้าน 58+60 Cafe เกิดจากเลขที่บ้านของที่ร้านนั่นเอง ซึ่งตัวร้านจะมีสีขาวสะอาดตา ได้ฟีลเหมือนมาเที่ยวบ้านเพื่อน ดู Cozy อบอุ่น สบายตาเริ่มด้วยเมนูเครื่องดื่ม "Raspberry Tonic (110 บาท)" ไซรัปราสป์เบอร์รีผสมโทนิค ท็อปด้วยเอสเปรสโซชอต"Give Me Peach (85 บาท)" ไซรัปพีชผสมกับสตรอว์เบอร์รี และใส่โซดาเพิ่มความซ่า"Red Velvet (120 บาท)" ตัวเค้กจะใช้เนยเป็นส่วนผสมหลัก ทานพร้อมครีมชีสเนื้อเนียน"Blueberries Cream Cheese (159 บาท)" แป้งครัมเบิลกรุบกรอบหอมเนย เข้ากับบลูเบอร์รีครีมชีสซึ่งใช้เป็นโยเกิร์ตผสมกับครีมชีส ทำให้ได้เนื้อครีมชีสที่เบาและรสชาติหวานอมเปรี้ยว"Coconut Cake (100 บาท)" เมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน จะใช้มะพร้าวสดจากสวนอัมพวา ตัวซอสกะทิไม่หวานเกินไป มีเนื้อมะพร้าวให้เคี้ยว แล้วท็อปหน้าด้วยเนื้อมะพร้าวแบบจุกๆ"Carrot Cake (120 บาท)" ทางร้านเลือกใช้แครอทออสเตรเลีย เพราะรสชาติจะหวานกว่าแครอททั่วไป ตัวแป้งผสมมะม่วงหิมพานต์ สลับชั้นกับครีมชีส แล้วท็อปปิ้งด้วยถั่วต่างๆ แบบจัดเต็ม"58+60 Cafe" อยู่ซอยพัฒนาการ 78 ซอยย่อยผาสุกหทัย 6 ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-7205-5860

  • Let Me Tell You Our Story Cafe

    ต้อนรับเทศกาลแห่งความรัก Valentine's Day ด้วยคาเฟ่โรงนาสุดโรแมนติกที่ "Let Me Tell You Our Story Cafe" มาเพลิดเพลินกับความสวยงามของโรงนาสไตล์วินเทจและดอกไม้ละลานตา ที่ไม่ว่าโซน Indoor หรือ Outdoor ก็ถ่ายรูปสวยทุกมุมคอนเซ็ปต์ของร้านที่ตกแต่งออกมาในสไตล์โฮมมี่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่บ้านกลางสวนนั้น เกิดจากความชื่นชอบทำขนมและการตกแต่งบ้านของ 'คุณทราย' เจ้าของร้าน อีกทั้งความชื่นชอบในเรื่องการดื่มกาแฟของแฟนคุณทราย จึงนำความชอบเหล่านี้มาผสมผสานกันจนเกิดเป็นร้านแห่งนี้ขึ้นมา ซึ่งทางร้านจะเปลี่ยนธีมการตกแต่งไปเรื่อยๆ ตามเทศกาลอีกด้วย"Dark Beer Chocolate Cake (140 บาท)" สูตรของทางร้านจะใช้เบียร์ดำผสมโกโก้ แล้วปาดหน้าเค้กด้วยครีมชีสแบบเข้มข้น"Lemon Honey Cheesecake (140 บาท)" เมนูขายดีของทางร้านอีกหนึ่งตัว ความอร่อยจะอยู่ที่ตัวฐานของบิสกิตที่ทำเอง ตัวเค้กผสมกับน้ำเลมอนเพิ่มความหอมลงไปด้วย"Modovik Honey Russian (160 บาท)" เมนูซิกเนเจอร์ เป็นเค้กน้ำผึ้งสไตล์รัสเซีย ซึ่งตัวแป้งเค้กจะผสมกับน้ำผึ้งดอกลำไย ทำให้ได้รสชาติหวานตัดกับตัวครีมที่มีรสเปรี้ยว"Espresso Con Panna (80 บาท)" เป็นการผสมผสานระหว่างความเข้มข้นของเอสเปรสโซและความหวานมันของวิปครีม"กะเพราคอหมูทอด (65 บาท)" "สปาเกตตีเบคอนพริกแห้ง (90 บาท)" "เบอร์เกอร์หมูชาร์โคล (119 บาท)" เมนูน้องใหม่มาแรงที่ได้ทั้งเท็กซ์เจอร์ของหมูบดผสมกับมันหมูเพื่อความฉ่ำ และขนมปังชาร์โคลโฮมเมด"Grape Fruit Coffee (120 บาท)" "Sparkling Lychee Coffee (120 บาท)" ใครที่กำลังมองหาร้านบรรยากาศดีๆ อาหารอร่อยๆ ก็มากันได้ที่ "Let Me Tell You Our Story Cafe" อยู่ซอยวัดศรีวารีน้อย อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 08.00-20.00 น. (หยุดวันพฤหัส)

Follow us on INSTAGRAM