• ที่พักสุดคลาสสิก Prince Theatre Heritage Stay Bangkok

    วางแพลนไปชิลล่วงหน้ากับที่พักสุดคลาสสิคย่านบางรักอย่าง "Prince Theatre Heritage Stay Bangkok" ที่มีอดีตยาวนานจากโรงบ่อนกลายมาเป็นโรงหนัง Stand Alone อย่างปริ้นซ์รามาเมื่อปี 2460และในปัจจุบันถูกรีโนเวทเป็นที่พักแต่ยังคงความเป็นโรงหนังสุดคลาสสิคเอาไว้ได้อย่างลงตัวที่สำคัญ!!! ย่านบางรักแห่งนี้มีของอร่อยเยอะแยะมากมาย ถ้ามาพักที่โรงแรมก็ไม่ต้องเดินไปไกลสามารถสั่งอาหารเจ้าดังๆย่านบางรักมาทานภายในโรงแรมได้ด้วย"ข้าวขาหมูเทวดา" เจ้าเด็ดเจ้าดังก็สามารถสั่งมาทานได้"โจ๊กปริ๊นซ์" เจ้าดังย่านบางรัก ถ้าใครอยากไปนั่งทานที่ร้านก็สามารถให้ทางโรงแรมพาไปทานได้ หรืออยากจะทานอาหารสไตล์ไหน แนวไหน รสชาติแบบไหนที่อยู่ในย่านบางรักทางโรงแรมมีบริการจัดพาไปทานได้หมดเลย และใครที่จะมาแวะถ่ายรูปเล่นภายในโรงแรมก็สามารถมาแวะทานอาหารทานขนมของโรงแรมที่มีไว้บริการได้อีกด้วย"Show Ticket" ม็อกเทลซิกเนเจอร์ของโรงแรม"Day Light""New York Cheese Cake""Tiramisu"หาเวลาว่างไปพักกายพักใจ ตามรอยเปรี้ยวปากกันนะคะ

  • ต้องมนตร์เสน่ห์ไทยโบราณที่ เดอะ ระวีกัลยา แบงค็อก

    "เดอะ ระวีกัลยา แบงค็อก" ตั้งอยู่ในย่านประวัติศาสตร์ บางขุนพรหม พระนคร บรรยากาศร่มรื่นไปด้วยหลากหลายพันธุ์ไม้และเรือนเก่าแก่ เหมาะแก่การพักผ่อนสุดๆ ห้องพักของที่นี่ออกแบบอย่างพิถีพิถัน ตกแต่งด้วยงานศิลปทั้งไทยเดิมและร่วมสมัย สิ่งก่อสร้างต่างๆก็คงวิถีดั้งเดิมสมัยรัชการที่ 6 เอาไว้ สวยงามคลาสสิคจริงๆที่นี่ยังมีสวนผักออแกนิค ให้ผู้มาพักเข้ามาเก็บผักแล้วนำไปปรุงอาหารได้อีกด้วย ถือเป็นกิจกรรมสนุกๆที่สามารถชวนเด็กๆมาทำร่วมกันได้ น่ารักมากๆเลย อาหารของที่นี่ก็ไม่ธรรมดา เพราะอาหารทุกอย่างเป็นแบบไทยชาววังตั้งแต่ต้นสมัยรัชกาลที่ 6 มีความปราณีตและหลายเมนูหาทานได้ยากแล้วในปัจจุบัน"ยำทวาย" น้ำยำใช้กะทิสดและเครื่องแกงที่โขลกเองผัดจนแตกมัน"ม้าฮ่อ" ใช้สับปะรด ไส้จะคล้ายๆกับสาคู ถือเป็นเมนูที่หาทานได้ยากแล้วในปัจจุบัน"หมี่กรอบ" ทานแล้วสดชื่นแน่นอนเพราะผสมผิวของสมซ่าด้วย"ขนมจีนซาวน้ำ" สูตรเด็ดอยู่ที่แจงลอน หรือลูกชิ้นปลากรายนั่นเอง"ส้มฉุน" นำผลไม้ตามฤดูกาลมาลอยแก้ว ความพิเศษจะอยู่ที่น้ำเชื่อมที่ใส่กลิ่นส้มฉุนลงไปด้วย ทานคู่กับหอมเจียว"ขนมเหนียว" วิธีการทานคือคลุกทุกอย่างเข้าด้วยกัน จะมีทั้งน้ำตาลโตนด น้ำตาลเกลืองาขาว และข้าวตังกรอบ

  • ให้ทุกวันคือการพักผ่อน Vacation Bangkok

    "Vacation Bangkok" เกิดขึ้นด้วยคอนเซ็ปต์ที่อยากให้ทุกคนมองเรื่องการพักผ่อนเป็นเรื่องใกล้ตัวมากขึ้น และอยากให้ทุกวันที่มีกลายป็นวันหยุดของเราที่นี่จึงเป็นทั้งที่พัก มีพื้นที่ให้ได้นั่งทำงาน มีคาเฟ่ให้ทานของอร่อยๆและได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศดีๆ เพราะอยากให้ทุกคนที่มาที่นี่ได้รู้สึกว่าทุกวันของเขาจะเป็นวันหยุดพักผ่อนนั่นเองเริ่มเมนูแรกด้วยเมนูสุดฮิตของทางร้าน "Fresh Mint Americano" เพิ่มความแตกต่างและความสดชื่นให้กับคออเมริกาโน่ด้วยมินต์ ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น"Piccolo Rose" คล้ายๆลาเต้แต่นมน้อยกว่า และมีกลิ่นหอมของกุหลาบ โรยหน้าด้วยกุหลาบแห้งบด"Raspberry Fall""Caesar Salad" หรือซีซาร์สลัดที่ใส่มาในแป้งพาย รูปแบบการจัดจานครีเอทสุดๆ"Pork Ball Brioche" พอร์คบอล เนื้อหมูฉ่ำๆกับเชดด้าชีส ทานคู่กับขนมปังบริยอช

  • ไป Feel Good อิ่มอร่อยกลางทุ่งนาสวยๆที่ Brandnew Field Good

    หลายๆคนคงเคยเห็นบรรยากาศของร้าน "Brandnew Field Good" กันแล้วจากคลิปงานแต่งสวยๆของ "เป๊ก เปรมณัช" และ "นิว นภัสสร" สถานที่จัดงานแต่งก็ไม่ธรรมดา เนรมิตทุ่งนาจนกลายเป็นงานแต่งสวยๆ หลังจากนั้นจึงเปิดเป็นร้านอาหารบรรกาศดีที่ให้ความรู้สึก Feel Good สมชื่อแค่ทางเดินเข้าร้านก็สวยจนต้องขอยกกล้องมาถ่ายรูปรัวๆ จุดเด่นอยู่ที่ "สะพานไม้ไผ่" ที่ทอดยาวตั้งแต่ปากทางเข้าไปจนถึงตัวร้าน มีเสน่ห์สุดๆจนใครที่มาก็ต้องแวะถ่ายรูปเก็บไว้ เดินเข้ามาถึงในตัวร้านแล้วขอสั่งอาหารเหนือมาทานสักหน่อย เพราะอยากลองชิมอาหารเหนือแท้ๆสูตรคุณแม่ของสาวเหนืออย่างนิว นภัสสร"ขนมจีนน้ำเงี้ยว" สูตรแท้ๆจากคุณแม่ของนิว นภัสสร ยืนยันความอร่อยด้วยเครื่องแกงที่ตำเองกับมือ"แกงเห็ดถอบ" เห็ดถอบมีเฉพาะฤดูฝน ปรุงตามแบบฉบับพื้นเมืองเหนือแท้ๆ ลำแต๊ๆ "ไก่ต้มขมิ้นใบโหระพา" ใช้เนื้อไก่ส่วนสะโพก เนื้อนุ่มกำลังดี รสชาติเปรี้ยวๆ ทั้งเผ็ดทั้งแซ่บ"ซาโยเต้ไก่กรอบ""ผัดไทยกลางทุ่ง""ผัดผักกูดใส่จิ้นส้ม""ข้าวเหนียวมะม่วง"ที่นี่ไม่ได้มีแค่ร้านอาหาร แต่ยังมีที่พักสวยๆอย่าง "บ้านไก่โห่" ไก่โห่สมชื่อจริงๆ เพราะมีไก่เดินต๊อกแต๊กกันทั้งวัน แต่ก็ส่งเสียงกันน่ารักๆตามประสาไก่ ใครอยากไปสโลว์ไลฟ์พักจิตใจให้สงบที่นี่ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีเลยทีเดียว

  • ห้องอาหารเชลียง อาหารไทยโบราณ ณ โรงแรมชินะปุระ จังหวัดพิษณุโลก

    ตามมาสัมผัสความอร่อยของอาหารไทยโบราณกันที่ "ห้องอาหารเชลียง โรงแรมชินะปุระ จังหวัดพิษณุโลก" กับหลากหลายอาหารโบราณด้วยฝีมือเชฟที่มีความถนัดในด้านอาหารไทยเป็นพิเศษ ทั้งรสชาติและการตกแต่งจานสวยงามจับตามากๆ "โรงแรมชินะปุระ หรือ Shinnabhura Historic Boutique Hotel"  โรงแรมเชิงท่องเที่ยวแนวประวัติศาสตร์ตั้งอยู่ใจกลางเมืองพิษณุโลกที่เต็มไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์มากมาย ที่มาของชื่อโรงแรม "ชินะปุระ" มาจากคำว่า "ชิน" หมายถึง "พระพุทธเจ้า" หรือ "ผู้ชนะ" อีกนัยหนึ่งยังพ้องกับชื่อพระพุทธรูปสำคัญของเมืองพิษณุโลกนั่นคือ "ชินราช" ซึ่งหมายถึง "ราชาผู้ชนะกิลเลส" อีกด้วย ส่วนคำว่า "ปุระ" หมายถึง "เมือง" ดังนั้น ชินะปุระ จึงหมายถึง เมืองแห่งผู้ชนะ หรือ เมืองแห่งชินราช นั่นเอง"ห้องอาหารเชลียง" เปิดให้บริการทั้งอาหารเช้า กลางวัน และมื้อค่ำ อาหารแต่ละเมนูล้วนถูกคัดสรรมาแล้วจากเชฟที่มีความถนัดในด้านอาหารไทยเป็นพิเศษรอบเช้าเปิดตั้งแต่เวลา 6.30-10.30 น.รอบกลางวันเปิดตั้งแต่เวลา 11.00-17.00 น.รอบเย็นเปิดตั้งแต่เวลา 17.00-22.00 น."เมี่ยงคำกลีบบัวหลวง""ยำส้มโอกุ้งแม่น้ำสองแคว""ยำมังคุดมหาเทวี""กรกฎสองทัพ""หัวปลีทอดกรอบกุ้งสดน้ำยำทรงเครื่อง""โรงแรมชินะปุระ พิษณุโลก" ตั้งอยู่บน ถ.สีหราชเดโชชัย อ.เมืองพิษณุโลก สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-5521-9888

  • Unbranded Cafe คาเฟ่ขนมปังฝรั่งเศสแบบโฮมเมด

    ร้านขนมอบชื่อดังที่สาวกขนมปังจะต้องชื่นชอบกับร้านนี้ "Unbranded Cafe" ที่เชฟโรสเจ้าของร้านตั้งใจรังสรรค์คาเฟ่นี้ขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสกับขนมปังฝรั่งเศสแบบโฮมเมดสูตรเฉพาะของที่นี่ ซึ่งตอนนี้ก็ได้มารวมอยู่ที่เดียวกับโรงแรมพระนครนอนเล่น ทำให้มีทั้งอาหารและขนมที่เดียวจบ"Croissant Cube (200 บาท)" ความพิเศษอยู่ที่รูปทรงสี่เหลี่ยมเหมือนขนมปังปอนด์ แล้วพอขึ้นรูปเป็นก้อนแบบนี้จะให้ความชุ่มฉ่ำของเนยยังอยู่ข้างใน มีความนุ่มและหอมเนย"Sourdough (เริ่มต้น 200 บาท)" เป็นขนมปังฝรั่งเศสเพื่อสุขภาพ มีวิธีการทำที่ค่อนข้างยาก ใช้เวลา 2-3 วัน ในการเตรียมวัตถุดิบ เป็นการหมักยีสต์เองแบบธรรมชาติ ซึ่งจะทำให้เส้นใยในขนมปังเบาบาง พอทานแล้วรู้สึกเบาท้อง ย่อยง่าย ส่วนตัวรสชาติขนมปังมีความเปรี้ยวและกรอบนอกนุ่มใน"แยมสูตร Homemade (เริ่มต้น 100 บาท)""ข้าวกะเพราหมูตุ๋น (135 บาท)" หมูตุ๋นถูกตุ๋นจนนุ่ม นานกว่า 5-6 ชั่วโมง ใส่พริกเสฉวนลงไปด้วย รสชาติกึ่งๆ พะโล้ แต่นำมาครีเอทตัดกับกะเพราที่มีรสชาติเผ็ดร้อน"ข้าวผัดมันกุ้ง (145 บาท)" ความอร่อยอยู่ที่การนำส่วนมันที่หัวของกุ้งมาผัดและเคี่ยวจนเป็นซอส ปรุงแต่งรสชาติตามสูตรของทางร้าน ทำให้จานนี้มีความหอมจากมันกุ้งมากและท็อปปิ้งด้วยไข่กุ้งอีกที"ไก่คั่วเกลือ (120 บาท)" เมนูทานเล่นที่เป็นเมนูเด็ดของทางร้าน เป็นปีกไก่ที่นำมาคลุกเคล้ากับเกลือและปรุงรสสูตรพิเศษของทางร้าน เพิ่มความหอมด้วยพริกไทยดำ แล้วก็นำไปทอดให้กรอบนอกแต่ข้างในกัดไปยังมีความฉ่ำอยู่"สปาเกตตีปลาสลิด (165 บาท)" มีความพิเศษอยู่ที่ปลาสลิดที่มาจาก จ.สุพรรณบุรี มีการดูแลอย่างพิถีพิถันตั้งแต่ขั้นตอนการแพ็ค ทำให้ปลามีความสดใหม่ สะอาด ในทุกครั้งที่ส่งมา เมนูนี้นำปลาสลิดมาทอดให้กรอบกำลังดี แล้วนำมาคลุกเคล้ากับเส้นสปาเกตตี รสชาติเข้มข้น มีความเผ็ดจากพริกแห้งเล็กน้อย หอมใบโหระพาและพริกไทยดำ"สปาเกตตี Unbranded café (165 บาท)" อีกหนึ่งเมนูที่ลูกค้าชอบกันมาก ทานเมนูนี้แล้วจะเหมือนได้ทานพิซซ่าในรูปแบบของสปาเกตตี เป็นสูตรโฮมเมดของทางร้านอีกเช่นกัน โดยจะใช้พิซซ่าซอสในสไตล์ของ Unbranded มีเบสคือมะเขือเทศที่สุกเต็มที่ นำมาผัดและเคี่ยวพร้อมเครื่องต่างๆ กว่า 4 ชั่วโมง"Smoothie Mixed Fruit สูตร Wake Me Up (125 บาท)" "Freddo Cappuccino (80 บาท)""ร้าน Unbranded Cafe X โรงแรมพระนครนอนเล่น" อยู่ที่เทเวศร์ ซอย 1 ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น.(หยุดทุกวันจันทร์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-2424-2265

  • Afternoon Tea โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพ

    เปรี้ยวปากชวนมาจิบชายามบ่ายในบรรยากาศสุดหรูที่ Lobby Lounge โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ (Sindhorn Kempinski Hotel Bangkok ) กับ Afternoon Tea แสนละเมียดละไมแบบฉบับชาวอังกฤษ ในบรรยากาศที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติสมกับที่เป็น Hidden Gems in Bangkok เพราะมีพื้นที่สีเขียวกว่า 60% เข้ามาแล้วให้ความรู้สึกผ่อนคลายร่มรื่นในช่วงยามบ่ายก็จะมี Chevaa Afternoon Tea ชุดน้ำชายามบ่ายที่รังสรรค์ออกมาได้อย่างสวยงาม มีให้เลือกทั้งหมด 2 ชุด คือ ชุด Indulgence สำหรับผู้ที่ชอบความเหรียบหรูคลาสสิค และ ชุด Guilt Free สำหรับผู้ที่ห่วงใยสุขภาพ ทุกชุดจะเสิร์ฟคู่กับชาระดับพรีเมี่ยมซึ่งชาของที่นี่มีให้เลือกถึง 12 Selection สามารถมาเลือกดมกลิ่นก่อนได้ ตัวชาจะถูกชงโดย Tea Master  "Indulgence Afternoon Tea" มีเมนูโฮมเมดทั้งหมด 11 อย่าง เป็นของคาว 5 เมนู และของหวาน 6 เมนู ถูกรังสรรค์โดย เชฟเอเดียน และ เชฟแม็ก ช่วยกันครีเอทเมนูทั้งหมดออกมา"Pulled Chicken Satay Brioche with Pickled Cucumber and Peanut Sauce" สะเต๊ะไก่ม้วนกับแตงดอง เสิร์ฟพร้อมกับซอสถั่ว เชฟจะนำทุกอย่างทั้งไก่ที่กริลแล้ว ผักดอง มาม้วนในแผ่นขนมปังบริยอช แล้วราดซอสสะเต๊ะลงไป"Strawberry Tartlet with Almond Croquant and Creme Patisserie" "Lemon Merengue Tarte Pop" เมนูนี้หน้าตาจะคล้ายๆ Lollipop ด้านนอกเป็นเมอร์แรงก์ ด้านในเป็นซอสเลมอน"Salted Caramel, Praline and Chocolate Plaisir""Classic Scone"มาจิบชายามบ่ายสไตล์อังกฤษในบรรยากาศร่มรื่นแบบนี้ มากันได้ที่ "โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ" ในส่วนของ Lobby Lounge สำหรับ Afternoon Tea เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 14.00-17.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-2095-9999

  • The Yard Hostel Bangkok

    สำหรับคนที่ชอบเที่ยวในช่วงวันหยุดมาชิลกันได้ที่ "The Yard Hostel Bangkok" หรือชื่อภาษาไทยว่า "บ้านญาติ" โฮสเทลในบรรยากาศสบายๆ เป็นกันเอง เพราะคุณส้มเจ้าของโฮสเทลตั้งใจทำให้เหมือนมาพักผ่อนกันที่บ้านญาติจริงๆ และทุกคนที่มาก็เปรียบเสมือนญาติกัน ห้องพักในโฮสเทลแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ห้อง Private และห้องพักแบบรวม ห้องพักแบบรวมทุกเตียงจะมีช่องหน้าต่างเป็นของตัวเองสามารถเปิดรังแสงเองได้ แต่ความเก๋อยู่ที่แต่ละห้องจะถูกตั้งชื่อตามเครือญาติ เช่น พี่ชาย, พี่สาว, ปู่ และย่า เป็นต้น ในบริเวณลานพื้นที่จัดกิจกรรมคนที่มาพักก็สามารถมาทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น อ่านหนังสือ ฟังเพลง นอกจากที่นี่จะเป็นโฮสเทลแล้วยังเปิดเป็นพื้นที่ให้สามารถจองจัดกิจกกรรมได้ด้วย ทั้ง Mini Concert, Movie Night, ทำงานคราฟท์ และในตอนเย็นก็จะเปิดเป็นร้านอาหารในธีมปิ้งย่างบาร์บีคิว ในช่วงเย็นก็จะมีเซตปิ้งย่างให้เลือกทานคือ Family Set และ Skewer Set ซึ่งวัตถุดิบแต่ละอย่างก็ไม่ธรรมดา ทั้งเนื้อไทยวากิว A5 คุณภาพพรีเมี่ยมจาก จ.สุรินทร์ วัวจะถูกเลี้ยงโดยให้กินข้าวหอมมะลิเพื่อให้ได้เนื้อคุณภาพดี มาสัมผัสเปลี่ยนบรรยากาศ เปลี่ยนที่นอน สัมผัสกับความชิลได้ที่ "The Yard Hostel Bangkok" อยู่ที่ซอยพหลโยธิน 5 ส่วนของ Hostel เปิดตั้งแต่เวลา 09.00-22.00 น. และ BBQ เปิดเฉพาะวันอังคาร-เสาร์ ตั้งแต่เวลา 11.30-21.30 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 08-9677-4050

  • The Pattern Boutique Hotel & The Pattern Cafe

    "The Pattern Boutique Hotel & The Pattern Cafe" Boutique Hotel ขนาเล็กที่รีโนเวทมาจากโรงงานเสื้อผ้าที่เปิดมากว่า 40 ปี การดีไซน์จึงเน้นกลิ่นอายความเป็น Pattern เหมือนชื่อของโรงแรมห้องพักของที่นี่จะแบ่งออกเป็น 6 ประเภท โดยทุกห้องจะใช้ชื่อเป็นไซส์ของเสื้อผ้า เริ่มจาก XS, S, M, L, XL และ XXL การดีไซน์ของแต่ละห้องจะได้รับแรงบันดาลใจมาจากตู้เสื้อผ้า ห้องลองชุดต่างๆ เพื่อคงคอนเซ็ปต์ของโรงแรมเอาไว้นอกจากส่วนของห้องพักแล้วยังมี "The Pattern Cafe" ร้านคาเฟ่น่ารักๆ สไตล์มินิมอล ซึ่งอาหารและขนมทุกอย่างเป็นแบบโฮมเมด มีทั้งอาหารไทยและเมนูฟิวชั่นให้เลือก"กุ้งแม่น้ำผัดพริกกระเทียมราดข้าว(195 บาท)" "ริกาโทนี่ผัดแหนมใบโหระพา (160 บาท)" "หมูสับผัดปลาเค็มราดข้าว (150 บาท)""สลัดไก่ย่างแจ่วมาโย (150 บาท)""Sunny Side Up (120 บาท)" เครื่องดื่มน่ารักๆ ที่มีไข่จิ๋วท็อปอยู่ด้านบนซึ่งก็คือไข่แดงที่ทำออกมาในรูปแบบของเยลลี่ ก่อนทานต้องชิมไข่ดาวก่อนแล้วค่อยคนที่เหลือให้เข้ากัน"The Cactus (140 บาท)" มัทฉะพรีเมี่ยมนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ส่วนกระบองเพชรทำมาจากไวท์ช็อกโกแลต"ไดฟูกุมะพร้าว (100 บาท)" ใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ แวะมาพักกันได้ที่ "The Pattern Boutique Hotel & The Pattern Cafe" อยู่ที่ ซอยกรุงธนบุรี 6 แยก 7 ส่วนของ Hotel เปิดตลอด 24 ชม. และส่วนของ Cafe วันจันทร์-ศุกร์ เปิดตั้งแต่เวลา 11.30-19.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เปิดตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-2424-2989

  • ห้องอาหาร Mezzaluna โรงแรมเลอบัว

    ห้องอาหารสุดโรแมนติกที่ฮอตที่สุดในตอนนี้ "ห้องอาหาร Mezzaluna" ชั้น 65 โรงแรม Lebua At State Tower กับวิวแม่น้ำเจ้าพระยาในมุมที่สวยที่สุดอีกหนึ่งมุม และนอกจากบรรยากาศจะดีๆ แล้ว ยังการันตีความอร่อยระดับมิชลินสตาร์ 2 ดาว อีกด้วยMezzaluna (แมซซาลูน่า) ในภาษาอิตาเลียนแปลว่า พระจันทร์เสี้ยว ห้องอาหารจึงถูกดีไซน์เป็นครึ่งวงกลม และยังสามารถเห็นวิวของแม่น้ำเจ้าพระยาได้ 180 องศา ในมุมที่สวยที่สุดอีกมุมห้องอาหาร Mezzaluna จะนำเสนออาหารในรูปแบบโอมากาเสะแบบญี่ปุ่น และใช้วัตถุดิบนำเข้าตามฤดูกาล แต่จะใช้เทคนิคการปรุงแบบฝรั่งเศสขั้นสูงโดยเมนูจะเปลี่ยนไปทุกๆ 3 เดือนAMAEBI "TARTAR" กุ้งหวานญี่ปุ่นหมักกับซอสยูซุ เสิร์ฟมาพร้อมขนมปังกรอบ แครอทพูเร ท็อปด้วยคาเวียร์ และมี Amaebi Granite (น้ำแข็งแห้งที่ทำจากกุ้ง)Zuwaigani "Dressed And Custard" ปูหิมะจากฮอกไกโด ปรุงเข้าด้วยกันกับมันปู พร้อมกับทาร์รากอน(เครื่องเทศฝรั่งเศส) และผักโขม เสิร์ฟในรูปแบบคัสตาร์ด และมีโฟมจากปูด้วยMurasaki Igai "Mariniere" เมนูนี้ชูโรงด้วยหอยแมลงภู่แบบฉบับชาวฝรั่งเศส โดยด้านล่างมีปลาแฮดด๊อกรมควันผสมกับเห็ด และราดด้วยซุปคาโบชะ(ซุปฟักทองญี่ปุ่น)Kue "Hatcho Miso Crusted" ทางห้องอาหารนำปลาเก๋าจากเมืองคิวชูมาพักไว้หนึ่งสัปดาห์เพื่อลดปริมาณน้ำในเนื้อ และเพิ่มความกลมกล่อม ด้านล่างเป็นเห็ดพอร์ชินี และ ฮัทโจ มิโสะ พูเร (เต้าเจี้ยวญี่ปุ่นบดละเอียด) ด้านบนท็อปด้วยปลาหมึกหั่นเต๋า ข้าวพองจากหมึกดำ และราดด้วยน้ำหอมแดงเคี่ยวJean Larnudie's Foie Gras "Seared Sake Kasu Marinated" ฟัวกราส์หมักกับสาเกและงา เสิร์ฟพร้อมคื่นช่ายบด คื่นช่ายดองที่ขูดเป็นเส้น และตามด้วยคื่นช่ายหั่นชิ้น พร้อมราดด้วยน้ำซอสเป็ดNigata Marakami Wagyu "Grilled Over Bincho Charcoal" เนื้อวากิวจากนิงาตะย่างบนถ่านบินโจ (ถ่านบินโจคือถ่านขาวคุณภาพสูง) ด้านล่างคือร็อคเก็ตพูเร (ผักร็อคเก็ตบดละเอียด) และสำหรับวัวนิงาตะมีความพิเศษคือเป็นวัวที่ถูกเลี้ยงด้วยสาเกที่ส่งขายทั่วโลกปีละ 1,000 ตัว แต่จะถูกส่งมาที่ประเทศไทยเพียงเดือนละ 1 ตัวเท่านั้น Markin 70% Chocolate "Mille-Feuille" แป้งฟิโล วางเป็นชั้นสลับกับครีมช็อคโกแลตและครีมเก็นไมฉะ แต่งด้วยข้าวพองชาเขียว ตบท้ายด้วยไอศกรีมเก็นไมฉะสำหรับใครที่อยากจะมาสัมผัสความ Exclusive ระดับมิชลินสตาร์หรืออยากพาคนพิเศษมารับพิเศษสุดๆ ได้ที่ "ห้องอาหาร Mezzaluna" ชั้น 65  โรงแรม Lebua At State Tower ห้องอาหารเปิด ตั้งแต่เวลา 18.00-01.00 น. (หยุดทุกวันอาทิตย์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-2624-9555

Follow us on INSTAGRAM